วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พันธุ์ที่ใช้ปลูกกุหลาบหิน

พันธุ์ที่ใช้ปลูก



* ดอกสีแดง ได้แก่ Ramona, Tetra Vulcan
* ดอกสีชมพู ได้แก่ Adagio, Largo
* ดอกสีเหลือง ได้แก่ Yellow tom thum, Morning sun
* ดอกสีส้ม ได้แก่ Exotica, Nugget, Pixie, Rhumba


การรดน้ำให้ปุ๋ยกุหลาบหิน

การรดน้ำให้ปุ๋ย


    

      
     เนื่องจากกุหลาบหินเป็นไม้อวบ จึงสามารถทนแล้งได้ดีมาก โดยเฉพาะในช่วงกลางวันสั้น ในระหว่างเดือนพฤษจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระยะที่เกิดตาดอกและออกดอก และมีความต้องการน้ำน้อยกว่าช่วงเวลากลางวัน ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตทางต้น(Vegetative growth) ของกุหลาบหิน ดังนั้นการปลูกกุหลาบหินเป็นไม้กระถาง นอกจากจะใช้เครื่องปลูกที่มีลักษณะโปร่งและมีการระบายน้ำได้ดีแล้วยังต้องระมัดระวังเรื่องการรดน้ำด้วย ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวันควรรดตามความจำเป็น อาจจะรดวันเว้นวันหรือเว้นสองวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดกระถางและกระถางพลาสติกหรือดินเผา ซึ่งผู้ปลูกจะสังเกตหรือตรวจสอบความชื้นได้ การรดน้ำแต่ละครั้งจะต้องไม่เว้นช่วงนานจนเครื่องปลูกแห้งสนิท และควรรดน้ำให้มากพอที่จะมีส่วนเกินไหลซึมออกทางรูก้นกระถาง ทั้งเพื่อป้องกันการสะสมของเกลือ การรดน้ำกุหลาบหินมากเกินไปจะเกิดปัญหารากและยอดเน่า


การขยายพันธุ์กุหลาบหิน

การขยายพันธุ์



     1.โดยการเพาะเมล็ด ดังได้กล่าวมาแล้วว่าเมล็ดกุหลาบหินมีขนาดเล็กมากเล็กกว่าเมล็ดกล็อกซิเนียและอัฟริกันไวโอเล็ต จนเกือบจะกล่าวได้ว่าเล็กที่สุดในบรรดาไม้ดอกทั้งหลาย เมล็ดหนัก 1 ออนซ์ มีถึง 1,000,000-2,500,000 เมล็ด (บีโกเนียมี 2,000,000 แล้วแต่พันธุ์) ดังนั้นการเพาะจึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง ทั้งวัสดุที่ใช้จะต้องสะอาดและมีขนาดเล็ก (Fine) เก็บความชื้นได้พอเหมาะพอดีไม่แฉะเกินไป เพราะถ้าแฉะเกินไปจะทำให้เมล็ดเน่าก่อนงอก ในต่างประเทศใช้พีทและเวอร์มิคูไลต์ เบอร์ 4 อัตราส่วน 1:1 การเพาะควรใช้วิธีหว่านลงบนวัสดุเพาะโดยไม่ต้องกลบ เมล็ดจะสอดแทรกเข้าไปในช่องว่างของวัสดุที่ใช้เพาะเองได้ แต่เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่ายเลี้ยงง่าย จึงงอกได้เร็วและง่ายกว่าไม้ดอกอื่นๆ ตามตำราบอกว่าเมล็ดจะงอกภายใน 10 วันและอุณหภูมิที่ใช้เพาะจะต้องสูงกว่า 70 F ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ในการเพาะเมล็ดไม้ดอกมาหลายสิบชนิด ส่วนมากเมล็ดจะงอกได้เร็วกว่ากำหนดไว้ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพราะเรามีอุณหภูมิสูงกว่า 70 F อากาศร้อนกว่าจึงทำให้เมล็ดงอกเร็วกว่ากำหนดเสมอ ดังนั้นคาดว่ากุหลาบหินจะงอกภายใน 5-7 วันเท่านั้น
     

     2.การปักชำ ทำได้ทั้งยอดและใบแต่ดังได้กล่าวมาแล้วว่าในต่างประเทศได้มีการคัดพันธุ์และผสมพันธุ์จนได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะดีเด่นมากมายพร้อมกับ มีการจดทะเบียนสงวนลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อย ตามกฎหมายแล้วสงวนลิขสิทธิ์ในการทำกิ่งปักชำจำหน่ายเฉพาะผู้ทีมีใบอนุญาตเท่านั้น โดยผู้ปลูกจะต้องซื้อกิ่งปักชำจากผู้ผลิต แต่ถ้าต้องการจะทำกิ่งปักชำเอง โดยซื้อต้นแม่พันธุ์มาทำสต็อค จะต้องขออณุญาตอย่างเป็นทางการและขอค่าธรรมเนียมเป็นรายกิ่งให้กับผู้ทรงสิทธิ์นั้นด้วย จะขยายพันธุ์เองโดยพลการย่อมไม่ได้ถือว่าผิดกฎหมายมีโทษอย่างแรง การปักชำยอดทำได้ง่ายและสะดวกมาก เพียงแต่ตัดส่วนยอดให้มีความยาวประมาณ 1-3 นิ้ว ริดใบล่างออกบ้าง นำไปปักชำในทรายผสมถ่านแกลบอัตราส่วน 1:1 จะออกจากรากภายใน 2 สัปดาห์และย้ายปลูกได้เลย การปักชำใบทำได้ง่ายสะดวกมากแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะงอกเป็นต้นใหม่ คือ หลังจากปักชำแล้วจะออกรากที่โคนก้านใบภายใน 2 สัปดาห์แล้ะจะออกต้นใหม่ในเวลาประมาณ 2 เดือน


การปลูกกุหลาบหิน

การปลูก





     ดินที่ใช้ปลูกต้องโปร่งระบายน้ำได้ดี ทั้งนี้เพราะกุหลาบหินไม่ชอบดินแฉะกุหลาบหินไม่พิถีพิถันเรื่องดินปลูกมากนัก โดยเฉพาะประเทศไทยอาจเป็นเพราะว่ากุหลาบหินมีช่วงการเจริญเติบโตจนดอกบานนานกว่าไม้ดอกชนิดอื่นๆ กุหลาบหินปลูกได้ในดิน เกือบทุกชนิด แต่ปลูกได้ดีในดินร่วนปนทรายส่วนผสมของดินใช้ดินร่วน 2 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ขยายพันธุ์โดยการปักชำยอดและปักชำใบ







    

การดูแลกุหลาบหิน


การดูแลรักษา




     
        ดอกจะทยอยบานนาน 2 - 3 เดือนในช่วงฤดูหนาว แม้ดอกจะเล็ก แต่สีสันสะดุดตามาก กุหลาบหินถ้าปลูกในร่ม
       ใบจะเขียวเข้มและไม่ค่อยออกดอกเพราะชอบแดดจัด จึงควรตั้งไว้ในที่แสงอย่างเพียงพอหรือแสงแดดส่องถึง
       ให้น้ำสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ก็เพียงพอ ใช้ปุ๋ยหมักหรืปุ๋ยคอกละลายน้ำรดในช่วงที่กำลังออกดอก

       Cr. - http://www.maipradabonline.com/weekly/kulabhin.htm

ลักษณะทั่วไปของกุหลาบหิน


ลักษณะทั่วไปของกุหลาบหิน




กุหลาบหินเป็นไม้ประดับกระถางที่ปลูกง่าย ปลูกได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร แต่เจริญเติบโตได้ดีเมื่ออยู่กลางแจ้งเพราะเป็นพืชที่ชอบแดด จุดเด่นของกุหลาบหินอยู่ที่ดอกมีสีสันจัดจ้านสวยงาม
กุหลาบหินเป็นไม้อวบน้ำอายุหลายปี มีพุ่มเตี้ยสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ใบเดี่ยวสีเขียว ค่อนข้างกลม ปลายมน ขอบใบหยักเป็นมน ออกเวียนสลับซ้อนๆ กันคล้ายกุหลาบแต่ไม่อ่อนช้อยจึงได้ชื่อว่ากุหลาบหิน ออกดอกเป็นช่อ ช่อดอกชูสูงเหนือพุ่มใบ เป็นดอกย่อยขนาดเล็กๆ จำนวนมาก ดอกมีสี ต่างๆ เช่น ชมพู ส้ม เหลือง ฯลฯ
กุหลาบหินเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย แตกหน่อไว ถ้าขยันแยกหน่อกุหลาบหินจะเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตามกุหลาบหินเป็นไม้ประดับที่น่าสนใจที่รูปทรงดูสวยแปลกตาแตกต่างจากไม้ชนิดอื่น ถึงแม้จะมีความสามารถในการดูดสารพิษได้น้อยก็ตาม

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กุหลาบหิน





               ชื่อวิทยาศาสตร์ Kalanchoe Blossfeldiana
วงศ์ CRASSULACEAE
ถิ่นกำเนิด มาดากาสการ์
แสงแดด แดดจัด
อุณหภูมิ 18-24 องศาเซลเซียส
ความชื้น ต้องการความชื้นปานกลาง
น้ำ ต้องการน้ำปานกลาง
การดูแล กุหลาบหินจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว ดอกจะทยอยบานนาน 2-3 เดือน แม้ดอกจะเล็กแต่สีสันสะดุดตามาก กุหลาบหินถ้าปลูกในร่มใบจะเขียวเข้มและไม่ค่อยออกดอกเพราะชอบแดดจัด จึงควรตั้งไว้ในที่แสงอย่างเพียงพอหรือแสงแดดส่องถึง ให้น้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอ ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดในช่วงที่กำลังออกดอก
การปลูก เป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกในที่แสงแดดจัด ปลูกเป็นไม้ประดับได้ทั้งกลางแจ้งและปลูกเป็นไม้กระถางภายในอาคารกุหลาบหินปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด แต่ปลูกได้ดีในดินร่วนปนทราย ส่วนผสมดินร่วน 2 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน
การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการปักชำยอดหรือปักชำใบหรือเพาะเมล็ด
อัตราการคายความชื้น น้อย

อัตราการดูดสารพิษ น้อย